ศึกเอลกลาสิโก ที่ขึ้นชื่อเรื่องความมันส์ของวงการฟุตบอลสเปนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งศึก เอลกลาสิโก นั้น มันเป็นมากกว่าเกมกีฬา มันเป็นมากกว่าที่ สโมสร เรอัล มาดริด โคจรมาปะทะกับ บาร์เซโลน่า เพราะความดุเดือดของ 2 เมืองในประเทศสเปนนั้น ถือว่าเป็นเหมือนศักดิ์ศรี ของทั้ง 2 เมือง ที่ต้องการสร้างชื่อให้แก่ประเทศ โดยที่เมืองหลวงอย่าง เรอัล มาดริด ถึงนอกสนามบอลจะเป็นเมืองมหาอำนาจของประเทศที่มีทั้งเงินทองอำนาจ เรียกได้ว่าหิวเมื่อไรก็แวะมาเซเว่นอีเลเว้น แต่มาทางฝั่งของเมืองชนบทอย่าง “บาเซโลน่า” ที่ไม่ได้มีอะไรที่สะดวกสบาย ไม่มีความเจริญรุ่งเรือง ถ้าให้เปรียบสโมสร เรอัล มาดริดกับบาเซโลน่าอย่างเห็นภาพได้ชัดเจนที่สุด ก็คงจะต้องให้ทุกท่าน นึกถึงร้านสะดวกซื้อที่หันไปทางไหนก็เจอในบ้านเราอย่าง “เซเว่น อีเลฟเว่น” นั้นคือ เรอัล มาดริด ส่วน บาเซโลน่า นั้นก็ให้นึกถึงร้านขายของชำที่ทุกวันนี้แถบจะไม่มีให้เราได้พบเห็นกันแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ทีม ชนบทอย่าง บาเซโลน่า นั้นมีดีและสามารถเอาชนะเมืองหลวงอย่างมาดริดได้นั้นก็คือ ฟุตบอล ที่พวกเขาสามารถสร้างชื่อเสียงนำมาดริดในบางยุคบางสมัย
เหตุนี้เอง เกมฟุตบอลที่พวกเขาได้โคจรมาพบกันภายใต้ชื่อเรียกเท่ๆว่า ศึกเอลกลาสิโก มันจึงต้องมีเรื่องมีราวกันเกือบทุกนัด จนทำให้กองหลังกัปตันทีมราชันชุดขาว อย่าง “เซคิโอ รามอส” ไม่ค่อยจะกินเส้นกับรุ่นน้องในทีมชาติอย่าง “เคราส ปิเก้” สักเท่าไร เพราะเมื่อเจอกันในสนามที่ต่างฝ่ายสวมยูนิฟอมคุ่อริ เป็นต้องมีเรื่องกันอย่างที่เอาเป็นเอาตายกันเลย
แต่ใครจะเชื่อว่า 2 คนนี้ที่เจอกันในสนามที่ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ให้สโมสรแล้วจ้องจะกินเลือดกินเนื้อกัน แตต่พอมาเล่นให้ในนามทีมชาติสเปนแล้ว เขาทั้ง 2 เล่นเขากันอย่างที่ เรื่องที่เคยจะต่อยกันนั้นมันไม่เคยเกิดขึ้นเลย จนถูกยกย่องให้เป็นสุดยอดคู่เซ็นเตอร์ที่ แข็งแกร่งที่สุดในโลกปัจจุบันนี้